เล่าประสบการณ์เสริมจมูกครั้งแรก ที่ Goodwill Clinic สวยธรรมชาติไม่ดูโป๊ะ!!
- Kannika Styleblog
- Apr 3, 2019
- 2 min read
Updated: Apr 4, 2019

สวัสดีค่ะวันนี้เคทจะมาเล่าถึงประสบการณ์เสริมจมูกครั้งแรก ที่ Goodwill Clinic
ถ้าอยากจมูกสวยแบบธรรมชาติต้องนึกถึงคลินิกนี้เป็นอันดับแรกเลย
ตอนท้ายเคทมีส่วนลดมาฝากกันด้วยล่ะ อ่านให้จบน้า!
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตัวเคทเองยังไม่เคยมีความคิดจะทำจมูกมาก่อนเพราะคิดว่าเป็นคนมีดั้งอยู่แล้ว บวกกับคนอื่นๆก็บอกว่า จมูกโด่ง และส่วนตัวเป็นภูมิแพ้ด้วยน้ำมูกจะไหลบ่อยมาก เลยกังวลว่าถ้าทำแล้ว จะเกิดผลเสียมั้ยแต่พอเราได้ใช้ชีวิตกับการต้องถ่ายรูปเป็นกิจวัตรประจำวัน ถ่ายรีวิวบ้างถ่ายงานบ้างออกอีเวนท์อัดคลิป ออกกล้องต่างๆ ทำให้เริ่มคิดถึงเรื่องการเสริมจมูกคือพอถ่ายรูปหรืออัดคลิปออกมา จะเห็นได้ชัดว่า จมูกดูใหญ่ เลยเริ่มทำให้เราไม่มั่นใจเพราะถ้าเป็นรูปสามารถใช้แอพบีบให้เล็กได้ แต่ในคลิปไม่สามารถทำได้ ถ้าไปออกคลิปกับคนอื่นก็ยิ่งชัดเจนว่า จมูกใหญ่มากเรียกว่าจมูกชมพู่ ไม่ใช่ชมพู่อารยา ปลายจมูกเนี่ยใหญ่เหมือนลูกชมพู่ 555 บอกเลยว่าตอนที่ตัดสินใจจะทำไม่ได้คิดอะไรเยอะ นอกจากถ้าทำแล้วสวยลดปัญหาต่างๆในการออกกล้องได้ ก็อยากลองดู
ทำไมถึงต้องเป็นคลินิกนี้ ?
รู้จักคลินิกนี้เพราะเพื่อนแนะนำ มาว่าคุณหมอให้คำปรึกษาดีนะอะไรที่ทำ แล้วไม่เข้ากับหน้าคุณหมอจะไม่ทำให้เราเลยไปลองสืบๆค้นดูรูปในเพจของคลินิกเห็นได้ชัดอยู่อย่างหนึ่งว่าคุณหมอทำออกมาแล้ว
เป็นธรรมชาติคำว่า ธรรมชาติคือ ทำออกมาละเข้ากับรูปหน้าไม่โป๊ะ ดั้งไม่พุ่ง หรือโด่งไป
นอกจากสืบค้นจากเพจและเว็บมาก็เพิ่งรู้ว่ามีเพื่อนเคยทำกับทางคลินิกนี้ด้วยพูดตรงๆว่าถ้านางไม่บอกว่าทำนี่ก็คงไม่รู้ เพราะเข้ากับหน้าจนนึกว่า จมูกจริงไม่ได้เสริม เคทเลยเริ่มมั่นใจขึ้นจน ตัดสินใจนัดทางคลินิก เพื่อเข้าพบปรึกษากับคุณหมอ
ต่อไปเคทจะเริ่มรีวิวบรรยากาศภายในของ Googwill Clinic นะคะ
เริ่มจากคลินิกมีทั้งหมด 3 สาขา
สาขาสวนสยาม
สาขา Bts สนามเป้า
สาขาเชียงใหม่
ส่วนเคทไปทำที่สาขาสวนสยามค่ะ


พอเข้ามาข้างในคลินิกก็จะเจอเคาน์เตอร์สอบถามและมีโซฟารองรับให้นั่งพักนั่งเล่น
เริ่มเข้าพบปรึกษากับคุณหมอ
คุณหมอที่ให้คำปรึกษากับเคท ชื่อคุณหมอณัฐวุฒิ กลั่นเรืองแสง ตอนที่เริ่มปรึกษากับคุณหมอ
หมอณัฐได้สอบถามเกี่ยวกับรูปทรงจมูกที่เราอยากได้ถามว่า ส่วนไหนของจมูกที่ไม่พอใจ และเช็คจมูกเช็คโครงหน้าว่า เหมาะมั้ย ควรเสริมมากแค่ไหน เคทบอกคุณหมอว่า อยากให้สันจมูกโด่งกว่าเดิม
แต่ไม่เอาโด่งมาก ส่วนปลายจมูกอยากให้ดูเล็กลง และคุณหมอให้คำแนะนำว่า จริงๆ รูปหน้าแบบเคทมีดั้งอยู่แล้ว แค่ต้องปรับนิดหน่อยเรื่องปลายจมูกและเพิ่มสันนิดนึงก็จะสวยเข้าที่ ถ้าทำสันโด่งไป
หรือจมูกเล็ก ปลายพุ่งเกินไปจะทำให้หน้าดูเป็นกระเทยไม่ธรรมชาติ ยิ่งเวลาเราแต่งหน้าจัดจะเห็นได้ชัดและดูเหมือนเคทจะกังวลเรื่องจมูกใหญ่มากกว่า ความโด่งของจมูก บวกกับเคทเป็นคนมีกระดูกโหนกคิ้วที่นูนและเบ้าตาลึกการทำจมูกพุ่งเหมือนคนอื่นๆจะทำให้หน้าไม่สมส่วน หน้าอาจคมขึ้นแต่คมเหมือนแขกและหน้าจะดูดุทันที เลยบอกคุณหมอว่า เอาตามที่คุณหมอเห็นว่าควรลดควรเพิ่มแค่ไหน ไม่สนใจว่าจะหน้าคมหรือหน้าหวานมั้ย เอาแค่ให้ดูเป็นตัวเราและเป็นธรรมชาติก็พอ พูดง่ายๆคือคุณหมอเข้าใจความต้องการของคนไข้ และคุณหมอ ใจดีมากเป็นกันเอง สงสัยตรงไหนสามารถถามได้หมดเลย ส่วนเรื่องเป็นภูมิแพ้ คุณหมอบอกว่า คนเป็นภูมิแพ้สามารถเสริมจมูกได้ปกติ แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้นจนกว่าแผลจะหายแค่นั้น
หลังจากปรึกษาคุณหมอก็ทำการนัดวันเสริมจมูก
ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะมาเสริมจมูก
ใครที่กินวิตามินอาหารเสริมอยู่ให้หยุดทานก่อนจะมาทำ พอถึงวันนัดก็เตรียมตัว ทานข้าวให้เรียบร้อย และใครที่เป็นภูมิแพ้แบบเราคุณหมอได้บอกว่า ให้ทานยาแก้แพ้ก่อนผ่า ตัด 1 วัน จะช่วยให้น้ำมูกลดลงและไม่ไปรบกวนแผล

เมื่อถึงคิวทางคลินิกก็จะให้เราเตรียมตัวล้างหน้าให้สะอาด ฉีดยาฆ่าเชื้อ ตัดขนจมูก ให้เรียบร้อยใส่ชุดคลุม และหมวก

เข้าสู่ช่วงใกล้จะผ่าตัด พี่ผู้ช่วยพยาบาลก็เริ่มเก็บรายละเอียดทำความสะอาดหน้าให้อีกรอบปิดเทป ไว้ที่ตา และทาเบตาดีน เตรียมพร้อม รอคุณหมอ
ก่อนจะเริ่มทำการผ่าตัด คุณหมอจะฉีดยาชาให้เราก่อน จุดแรกคือที่หว่างคิ้วและแก้มทั้ง 2 ข้าง รอให้ยาชาออกฤทธิ์แล้ว จึงฉีดที่จมูก ถ้าถามว่าตอนฉีดยาชาเจ็บมั้ยเคยได้ยินนคนอื่นบอกว่าเจ็บมากจนทนไม่ได้พอได้เจอกับตัว หมอณัฐฉีดเจ็บนะแต่ก็ทนได้ค่ะไม่ถึงกับน้ำตาไหล ส่วนที่คุณ หมอฉีดที่จมูกนั้นเราเริ่มไม่รู้สึกเจ็บเพราะคุณหมอทิ้งให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ทำให้ไม่รู้สึกอะไรเลย ในตอนผ่าตัด
ในระหว่างทำการผ่าตัดห้ามคิดมากนะไม่งั้นจะเครียดและส่งผลเสียได้ ขณะที่หน้าเราชาไม่รู้สึกอะไรเลย หูของเราก็จะได้ยินเสียง ซึ่งตอนผ่าตัดคุณหมอก็จะบอกเรื่อยๆว่า หมอจะผ่าแล้วนะจะได้ยินเสียงหน่อยนะเราโต้ตอบหมอได้ปกติเอาง่ายๆเลยปล่อยหมอผ่าไป หูเราก็ฟังเพลงไปอย่าไปคิดเยอะเพราะพี่ผู้ช่วยเค้าจะเปิดเพลงให้ฟังตลอด
และอย่างที่เห็นในรูปว่า คุณหมอจะวัดซิลิโคนก่อนวัดและเหลาจนกว่า จะได้ซิลิโคนที่พอดี กับจมูกเรา คุณหมอใช้ซิลิโคน Mantis*+ ตะไบฮัมพ์+เย็บอินเทอร์โดม ( เย็บตกแต่งกระดูกอ่อน ปลายจมูก ) เพื่อปรับให้จมูกเล็กและเรียวสำหรับคนที่มีปัญหาปลายใหญ่จมูกชมพู่แบบเคท
Mantis Strut Implant Grade Silicone USA *
• เป็นซิลิโคนที่บริสุทธิ์ที่สุด
• แนบเนียนไปกับโครงสร้างจมูก
• ไร้ขอบซิลิโคน
• ผ่านการทดสอบสารก่อมะเร็ง
• ปลอดภัยอยู่ในร่างกายได้ตลอดชีวิต
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ทำเสร็จเรียบร้อย

พอผ่าตัดเสร็จคุณหมอก็เช็ดทำความสะอาดหน้าและให้ลุกขึ้นมาดูกระจกว่ารูปทรงจมูก เป็นยังไง ตอนแรกรู้สึกกลัวว่าถ้า เห็นจมูกตัวเองหน้า จะเปลี่ยนไปมั้ย จะโด่งไปมั้ย หรือจะมีรอย อะไรหลังผ่าตัดมั้ย สรุปคือรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มากจมูกดูมีสันขึ้นมาแต่ไม่โด่งเกินไป ปลาย จมูกเล็กลง และปลายไม่พุ่งเกินไป สำหรับเราคิดว่าเนี่ยแหล่ะพอดีแล้ว ไม่โป๊ะชัวร์คนดูไม่ออกว่าทำ 555
คุณหมอบอกว่า เคสเราหลังผ่าเสร็จบวมเล็กน้อยแต่พอดูเองแยกไม่ออกเลยว่าบวม ซึ่งอาจ บวมเพราะแพ้ยาชา แต่ก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมายอันนี้ขึ้นอยู่กับผิวและโรคประจำตัวด้วยไม่ต้อง ตกใจคนอื่นที่ทำ ส่วนมากก็ปกติไม่มีแพ้อะไร
พอส่องกระจกเช็คหน้าเสร็จก็แปะเทปกันซิลิโคนเคลื่อน และลงไปรับยา จะมีพี่ผู้ช่วยคอยดูแลและบอกเกี่ยวกับการดูแลรักษาแผล การทานยา ที่ Goodwill Clinic เขาจะมีหมอนรองคอให้ด้วยเราไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเลยยาที่ได้มาก็มี ยาฆ่าเชื้อ ยาลดบวม และ ยาแก้ปวด
ยาแก้ปวดกินแค่เวลาปวดแผลเท่านั้น ถ้าไม่ปวดก็ไม่ต้องกิน กินยาที่เหลือให้ครบ ทางคลินิกจะมีลูกประคบให้ด้วยค่ะ มันคือลูกโป่งใส่น้ำ แล้วนำไปแช่แข็ง เวลาเอามาประคบจะเข้ากับเบ้าตาของเราได้ดีกว่า แบบที่เป็นเจลเย็น อันใหญ่ๆ ซึ่งสามารถเอากลับบ้านได้เลย ทั้งนี้ เคทเป็นภูมิแพ้พอกลับบ้านไปก็กินยาแก้แพ้กันไว้เลย และคุณหมอยังบอกอีกว่า เมื่อไหร่ที่เริ่มจะมีน้ำมูกให้กินยาแก้แพ้กินจนถึงวันตัดไหม ยาแก้แพ้ไม่มีผลข้างเคียงเพราะฉะนั้น สามารถทานได้ แต่ถ้าวันไหนน้ำมูกแห้ง ก็ไม่ต้องกิน หรือจะกินวันเว้นวันก็ได้
สิ่งต้องห้ามทำหลังเสริมจมูก
งดเค็ม งดเผ็ด งดของร้อน งดของหมักของดอง ของดิบพวกอาหารแสลงต่างๆ เช่น ส้มตำ
งดแอลกอฮอล์และงดใส่แว่น สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสายตาหลังทำ 2 เดือนขึ้นไปถึงจะเริ่มใส่ แว่น ได้ในช่วงนี้ก็ใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อน ต้องงดออกกำลังกายเพราะจมูกยังไม่เข้าที่อาจทำให้เอียงหรือเบี้ยวได้ การนอนให้นั่งนอน ใช้หมอนรองคอตอนนอน และห้ามนอนราบค่ะ

วันแรกหลังเสริมจมูก
จริงๆกลัวแผลช้ำและบวมมากกก เพราะเคยเห็นคนอื่นเค้า บวมกันเยอะ พอกลับบ้านบอกเลย ว่าประคบไม่หยุด วันแรกเลือดจะลงมาอยู่บริเวณตาและใต้ตา เพราะฉะนั้นเราเลยประคบไปที่ตา ทั้งคืน อาจจะไม่ได้นอนหน่อยๆ แต่ผลที่ได้ก็คือวันแรกยังไม่เป็นอวตารและแน่นอนว่า ต้องทนหน่อยกับเรื่องการนั่งนอนเพราะมันอาจจะไม่สบายเท่านอนราบ ยังไงเราก็ต้องนั่งนอนไปอีกหลายวัน เพราะฉะนั้นก็ทนไป เดี๋ยวก็ชิน 555
แต่ก่อนเราเป็นคนที่ทานข้าวไม่ตรงเวลา ทานวันละมื้อสองมื้อแต่ถ้าผ่าตัดแล้วอยากให้หายบวมเร็วๆ ต้องทานครบให้ 3 มื้อนะเพราะต้องทานยาตรงเวลาไม่งั้น หายช้าแน่ๆ และนอกจากยาแล้วเราก็หาของทานเสริมเพื่อให้หน้าหายบวมไวๆด้วยเช่น กินน้ำมะพร้าว บอกเลยว่า กินเยอะมากกเหมือนกินแทนน้ำ ยกเว้น ตอนทานยาจะใช้น้ำเปล่ารวมถึงน้ำใบบัวบก ถ้ากลืนไม่ลงจริงๆก็กินแบบแคปซูลแทนได้ ฝักทองนึ่ง หรือถั่วดำต้มน้ำตาลก็ช่วยได้ ของพวกนี้จะไปเสริมช่วยให้หน้าเราหายบวมไวขึ้น

วันที่ 2
ส่วนที่บวมๆเริ่มยุบแล้วค่ะ มีความช้ำเขียวๆเหลืองๆ ต้องประคบเยอะๆให้เหมือนกับวันแรก เหมือนเดิม จะเห็นว่า จมูกบวม เราไม่คิดเรื่องรูปทรงเยอะเพราะมันยังบวมอยู่ในช่วง 3 วันแรกเราจะไม่ได้ล้างหน้า เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกไม่ไหวจริงๆก็ให้เอาสาลีแผ่น ชุบน้ำเกลือแล้ว ค่อยๆเช็ดส่วนที่หน้ามัน

วันที่ 3
ดีใจที่รอยช้ำตรงตาเริ่มหายละ แต่น้องเริ่มลงมาบวมที่แก้มก็เอาเจลมาประคบที่แก้มต่อถ้า สำหรับคนที่ทำงานแล้วลาได้ไม่เยอะแค่ 3 วัน ถือว่าพอเลยนะวัน ที่ 3 นี่ไปทำงานต่อได้เลยไม่มีการบวมที่กลัวหลงเหลืออยู่ถือว่าหมอทำดีมากๆบวมน้อยมาก ตอนแรกที่หมอบอกว่า บวมยาชาเคทก็กลัวว่า พอหายชาละจะบวมเยอะและ 3 วันแรกเป็นอะไรที่บวมเยอะที่สุด แต่นี่แบบคือหายบวมไป เลยไวมากก

วันที่ 5
ได้เวลาแกะเทปผ้าออก บางคนอาจเอาออกตั้งแต่วันที่ 4 แต่ของเราทางคลินิกบอกให้เอาออก วันที่ 5 ดีกว่า เราเลยรอครบ 5 วัน เทปผ้าสามารถแกะออกเองได้เลยแต่ถ้ากลัวว่า จมูกจะเบี้ยว หรือ เทปมันเหนียวมันแน่นไป สามารถไปที่คลินิกให้พี่ผู้ช่วยแกะออกให้ได้ ถ้าจะแกะเองแนะนำให้ใจเย็นๆ เราเอาคอตตอนบัตชุบน้ำเกลือแล้วค่อยๆเขี่ยให้เทปมันเปียกจนสามารถแกะออกได้ง่ายๆ


ครบ 7 วัน
ยังเหลือรอยเหลืองๆบริเวณสันจมูกเล็กน้อยแค่แต่งหน้าก็มองไม่เห็นแล้ว ถ้าใครต้องออกงาน หรือไปข้างนอก สามารถแต่งหน้าได้ตั้งแต่วัน ที่ 4 -5 หลังแกะเทปผ้าออก แต่เคทอยากให้มันยุบลงกว่านี้พอครบ 7 วัน ถึงเริ่มแต่งหน้า ไม่มีอาการเจ็บใดๆตั้งแต่วันแรกที่ทำค่ะ

รูปเก่าก่อนเสริมจมูก

รูปล่าสุดหลังเสริมจมูกครบ 7 วัน
เห็นได้ชัดเลยว่าจมูกมีสันที่โด่งขึ้น เรียวขึ้น ปลายจมูกที่เป็นลูกชมพู่ก็เล็กลงและดูสมส่วนรับกับรูปหน้า แต่อย่างที่คุณหมอเคยบอกว่า ต้องรอสัก 1-2 เดือนให้จมูกเข้าที่และรัดแกนมากขึ้น ถึงจะดูเล็กลงกว่าเดิม สำหรับเคทบอกเลยว่าเป็นทรงที่พอใจมาก มันดูไม่พุ่งไม่โด่งเกินไปหรือจมูกเล็กเกินไป ดูธรรมชาติดี คิดไม่ผิดจริงๆที่ ตัดสินใจมาเสริมจมูกครั้งนี้หลังจากที่ค่อนข้างกังวลและกลัวว่าทำแล้ว จะออกมาดูไม่เหมือนตัวเราหรือเปล่าแต่คุณหมอก็เข้าใจและชำนาญมาก คุณหมอสามารถปรับให้เข้ากับรูปหน้าของเราและทำให้ดูธรรมชาติที่สุด
รู้สึกดีและประทับใจมาก นอกจากนี้พี่ๆผู้ช่วยที่คลินิกก็น่ารักเป็นกันเอง ดูแลเราดีมากตั้งแต่ก่อนทำ และหลังทำ คอยทักแชทมาเช็คอาการอยู่เรื่อยๆ หรือถ้าเราสงสัยอะไรก็ทักคุยกับพี่ๆผู้ช่วยได้ตลอด
เคทอยากจะแชร์ประสบการณ์ เสริมจมูกครั้งนี้ให้กับเพื่อนๆทุกคนที่กำลังลังเล หรือมองหาคลินิกอยู่ ซึ่ง Goodwill Clinic เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ว่า จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คุณหมอก็สามารถเสกจมูก ที่สวยรับกับรูปหน้า อย่างเป็นธรรมชาติให้กับคุณได้ ทำครั้งเดียวเป๊ะจบเลยอยู่ได้ตลอดชีวิต ถ้าอ่านแล้ว ยังไม่เชื่อ สามารถเข้าไปดูรีวิวหรือข้อมูลต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ FB Page: Goodwill Clinic นะคะ
Comments